โควิด-19 : มีอาการอย่างไรเมื่อติดเชื้อโอมิครอน

ข่าวสุขภาพ (ในประเทศ - ต่างประเทศ)

ขณะนี้เชื้อไวรัสกลายพันธุ์โอมิครอนได้ระบาดอย่างรวดเร็วในหลายพื้นที่ทั่วโลก และนักวิทยาศาสตร์หลายคนพากันออกมาเตือนว่าเป็นเชื้อไวรัสที่ก่อให้เกิดโรคโควิด-19 ที่แพร่ได้อย่างรวดเร็วที่สุด ณ ขณะนี้

ขณะนี้เชื้อไวรัสกลายพันธุ์โอมิครอนได้ระบาดอย่างรวดเร็วในหลายพื้นที่ทั่วโลก และนักวิทยาศาสตร์หลายคนพากันออกมาเตือนว่าเป็นเชื้อไวรัสที่ก่อให้เกิดโรคโควิด-19 ที่แพร่ได้อย่างรวดเร็วที่สุด ณ ขณะนี้

ผู้ติดเชื้อโอมิครอนดูจะมีอาการไม่หนักมากเมื่อเทียบกับเชื้อชนิดอื่น ๆ ก่อนหน้านี้ และไม่ต่างจากอาการป่วยด้วยโรคหวัดธรรมดา หรือไข้หวัดใหญ่

อย่างไรก็ดี ความที่เชื้อโอมิครอนแพร่ระบาดได้อย่างรวดเร็ว ยังคงทำให้ระบบบริการสาธารณสุขในหลายประเทศต้องรับมืออย่างหนัก และผู้ที่น่าเป็นห่วงคือกลุ่มคนที่ไม่ได้รับวัคซีน กับผู้ป่วยที่เป็นกลุ่มเสี่ยงสูง

คำถามคือว่าเราจะรู้ได้อย่างไรว่าติดเชื้อโอมิครอน

โควิด-19 : สายพันธุ์เดลตากับอาการที่พบบ่อย ปวดหัว เจ็บคอ และน้ำมูกไหล
โควิด-19 : สหราชอาณาจักรยกเลิกตรวจโควิดก่อนเข้าประเทศ มีผล 7 ม.ค.
อาการ
“เราคิดว่าเชื้อโอมิครอนทำให้เกิดอาการป่วยที่คล้ายกับเชื้อกลายพันธุ์ชนิดอื่นที่เบากว่าที่เราพบในหมู่คนที่ได้รับวัคซีนแล้ว เช่น เชื้อเดลตา” ศ. ทิม สเปคเตอร์ นักระบาดวิทยา ของคิงส์คอลเลจ ลอนดอนผู้นำโครงการศึกษาที่ชื่อ “โซอี โควิด ซิมป์เทิม” (Zoe Covid Symptom) กล่าว

ศ. สเปคเตอร์ และคณะกำลังรวบรวมข้อมูลผู้ป่วยหลายพันคนเพื่อวิเคราะห์อาการและดูว่าเชื้อกลายพันธุ์เดลตาและโอมิครอนมีความเหมือนหรือต่างกันอย่างไร ซึ่งที่ผ่านมาพบอาการ 5 อย่างที่เหมือนกัน ได้แก่ :

น้ำมูกไหล
ปวดศีรษะ
อ่อนเพลีย (น้อย หรือ มาก)
จาม
เจ็บคอ
สาเหตุที่ทำให้มีอาการไม่หนัก ส่วนใหญ่เป็นผลมาจากการที่คนจำนวนมากได้รับวัคซีนโควิดแล้ว หรือไม่ก็มีภูมิคุ้มกันหมู่

 

แต่ขณะนี้ก็ยังเร็วเกินไปที่จะชี้ว่าเชื้อโอมิครอนจะส่งผลอย่างไรกับคนที่ไม่ได้รับวัคซีนและคนที่มีระบบภูมิคุ้มกันบกพร่อง ซึ่ง ศ.สเปคเตอร์ ชี้ว่าเพราะอาการของผู้ติดเชื้อโอมิครอนที่ได้รับรายงานนั้น คล้ายกับการป่วยด้วยโรคหวัดธรรมดา ซึ่งอาจทำให้คนไม่ได้ตระหนักว่าตัวเองอาจจะติดเชื้อโรคโควิด-19

สิ่งนี้หมายความว่าในพื้นที่ที่มีการระบาดของเชื้อโอมิครอนอย่างรวดเร็วอย่างในกรุงลอนดอน ผู้ที่มีอาการป่วยเหมือนเป็นไข้หวัดก็คือผู้ที่ได้รับเชื้อโควิด-19

ดังนั้นหากสงสัยว่าติดเชื้อนี้เข้าให้แล้ว สิ่งสำคัญคือจะต้องเข้ารับการตรวจหาเชื้อโดยเร็วที่สุด แม้จะมีอาการไม่หนักมากหรือไม่มีอาการเลยก็ตาม เพราะจะช่วยลดความเสี่ยงไม่ให้คนอื่นติดเชื้อได้

อาการป่วยด้วยโรคโควิด-19 ที่พบก่อนหน้านี้ มีทั้งการมีไข้ ไอ และสูญเสียการรับรสและกลิ่น แต่ผู้เชี่ยวชาญจากคิงส์คอลเลจ ลอนดอน บอกว่าผู้ติดเชื้อรายใหม่ส่วนใหญ่บอกว่าไม่มี “อาการดั้งเดิมเหล่านี้”

อาการอะไรที่น่ากังวล
สำนักงานบริการสุขภาพแห่งชาติ (เอ็นเอชเอส) ของสหราชอาณาจักร แนะนำว่าควรจับตาอาการเหล่านี้ :

ไอฉับพลันอย่างต่อเนื่อง
มีไข้ หรือตัวร้อนจัด
สูญเสียการรับรสและกลิ่น

อย่างไรก็ดี สำหรับบางคนแล้ว การติดเชื้อโรคโควิด-19 อาจไม่ต่างจาก “เป็นไข้หวัดอย่างหนัก” คือมีอาการปวดศีรษะ เจ็บคอ และน้ำมูกไหลร่วมด้วย

มีไข้ถือเป็นอาการที่กำกวม ?

การที่อุณหภูมิร่างกายสูงเกินกว่า 37.8 องศาเซลเซียส ถือว่าเป็นอุณหภูมิสูง และการมีไข้ก็เกิดขึ้นได้ตอนที่ร่างกายกำลังต่อสู้กับการติดเชื้อใด ๆ ก็ตาม ไม่เฉพาะเชื้อโรคโควิด-19

การวัดไข้โดยใช้ปรอทวัดไข้จะช่วยบอกได้ว่าตัวร้อนแค่ไหน แต่หากไม่มี การสัมผัสแผ่นอกหรือแผ่นหลังว่าร้อนหรือไม่จะบอกได้เช่นกัน

ทั้งนี้ การเป็นไข้หวัดธรรมดาจะไม่ทำให้มีอาการตัวร้อน ดังนั้นหากว่ามีอาการตัวร้อนด้วย ก็ควรจะเข้ารับการตรวจหาเชื้อโควิด

แล้วถ้าไอด้วย ?
ถ้าคุณเป็นไข้หวัดใหญ่หรือไข้หวัด คุณมักจะมีอาการไอและอาการอื่น ๆ ร่วมด้วย

โดยผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่นั้นจะมีอาการปวดกล้ามเนื้อ หนาวสั่น ปวดศีรษะ อ่อนเพลีย เจ็บคอ น้ำมูกไหล หรือคัดจมูกและไอ โดยอาการเหล่านี้จะเกิดขึ้นแบบฉับพลัน

ส่วนไข้หวัดธรรมดานั้นอาการจะค่อย ๆ เกิดขึ้น และไม่หนักเท่าไข้หวัดใหญ่ แต่ถึงอย่างนั้นผู้ป่วยก็จะรู้สึกว่าตัวเองไม่สบาย คนเป็นไข้หวัดจะมีอาการไอ อาจจะจาม เจ็บคอ และมีน้ำมูกไหลร่วมด้วย ส่วนอาการหนาวสั่น ปวดกล้ามเนื้อและปวดศีรษะ ไม่พบบ่อยนัก

สำหรับอาการไอในหมู่ผู้ติดเชื้อโควิด-19 นั้น คือการไอหนัก ๆ เป็นเวลานานมากกว่า 1 ชั่วโมง หรือไอ 3 หรือ 4 ครั้ง หรือไอ “เป็นช่วง ๆ ” ในรอบ 24 ชั่วโมง

 

หากพบว่ามีอาการไอที่เพิ่งเกิดขึ้นและไออย่างต่อเนื่อง ก็ควรเข้ารับการตรวจหาเชื้อ

แล้วถ้าสูญเสียการรับรู้รสและกลิ่น ?
นี่คืออาการที่ชัดเจนของผู้ป่วยโควิด-19 ดังนั้นหากมีอาการนี้ก็ควรรับการตรวจหาเชื้อ แม้คุณอาจรู้สึกเหมือนเป็นหวัดธรรมดาก็ตาม เพราะนี่จะช่วยป้องกันไม่ให้แพร่เชื้อไปยังผู้อื่นได้

การจาม แสดงว่าติดเชื้อไวรัสโคโรนาไหม ?

อาการจามอย่างเดียวไม่ใช่อาการทั่วไปของผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาหากว่าคุณไม่มีไข้ ไอ หรือสูญเสียการรับรสและกลิ่น เพราะฉะนั้นจึงไม่น่ากังวล แต่การจามทำให้แพร่เชื้อโรคได้ ดังนั้นควรใช้ทิชชู่เวลาจาม และล้างมือทุกครั้ง

ถ้าน้ำมูกไหลหรือคัดจมูกล่ะ ?
นี่ก็ไม่ใช่อาการหลัก ๆ ของการติดเชื้อไวรัสโคโรนา แต่งานวิจัยหลายชิ้นชี้ว่าคนที่ติดเชื้อบอกว่ามีอาการนี้เหมือนกัน

Getty Images แม้จะมีอาการไม่หนัก แต่ผู้ติดเชื้อโอมิครอนก็ทำให้ผู้ที่ไม่ได้รับวัคซีนหรือผู้ที่มีภูมิคุ้มกันบกพร่องเสี่ยงที่จะได้รับเชื้อไปด้วยได้

ในสหรัฐฯ ได้รวมอาการน้ำมูกไหล หรือคัดจมูก รวมทั้งท้องเสีย ว่าเป็นอาการที่เป็นไปได้ที่จะเกิดกับผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนา

ท้องเสียเป็นอาการหนึ่งไหม
ข้อมูลจากแอฟริกาใต้ชี้ว่า ผู้ติดเชื้อโอมิครอนบางรายแจ้งว่ามีปัญหาเกี่ยวกับระบบย่อยอาหาร แต่ในสหราชอาณาจักร ศ. สเปคเตอร์ บอกว่าอาการของผู้ติดเชื้อโอมิครอนไม่ต่างจากการติดเชื้อกลายพันธุ์ชนิดอื่น คือมีอาการหลัก ๆ เกี่ยวกับการติดเชื้อในระบบทางเดินหายใจ

ถ้าติดเชื้อโอมิครอนจะทำให้ป่วยหนักไหม
ข้อมูลเบื้องต้นและการศึกษาหลายชิ้นบ่งชี้ว่าเชื้อกลายพันธุ์โอมิครอนไม่ได้รุนแรงเท่ากับเชื้อกลายพันธุ์ชนิดอื่น ๆ แต่เหนือไปกว่านั้นก็คือการที่ประชากรได้รับวัคซีนและมีภูมิคุ้มกันตามธรรมชาติ จึงทำให้ไม่ป่วยหนัก

อย่างไรก็ดี การที่เชื้อโอมิครอนแพร่ระบาดอย่างรวดเร็ว ยิ่งกว่าเชื้อเดลตา จึงทำให้การระบาดของเชื้อกลายพันธุ์ชนิดนี้เป็นปัญหาท้าทายในหลายประเทศ และเพิ่มความเสี่ยงให้คนที่มีอาการป่วยอื่น ๆ อยู่ก่อนแล้ว

ผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาอาจมีอาการแตกต่างกันได้ทั้งหนักหรือเบา หรือบางคนอาจไม่มีอาการเลยด้วยซ้ำ แต่ก็ยังถือว่าเป็นผู้ติดเชื้อ

สำหรับผู้ที่มีอาการ ก็สามารถหายได้ภายในสองสัปดาห์นับตั้งแต่ได้รับเชื้อ แต่โดยปกติแล้วจะดีขึ้นภายในห้าวัน แต่หากมีอาการหายใจติดขัดร่วมด้วย นั่นแสดงให้เห็นว่าเกิดการติดเชื้อที่รุนแรงกว่า

อย่าดูเบาโรคโควิด-19
ดร.เดวิด นาบาร์โร ผู้แทนพิเศษขององค์การอนามัยโลกว่าด้วยเรื่องโควิด-19 ออกมากล่าวถึงเรื่องที่รัฐบาลสหราชอาณาจักรปรับกฎเกณฑ์ให้ผู้ที่ติดเชื้อโรคโควิด-19 แต่ไม่มีอาการ ไม่ต้องรับการตรวจหาเชื้อในห้องแลป หลังจากใช้ชุดตรวจเร็วได้ผลเป็นบวกแล้ว โดยเขาเห็นว่ายังเป็นเรื่องที่บอกได้ยากว่าตัวเลขผู้ติดเชื้อสะท้อนจำนวนผู้ติดเชื้อจริงทั้งหมดหรือไม่ เพราะคนส่วนใหญ่ใช้วิธีตรวจด้วยตนเองที่บ้าน และหากพบว่าติดเชื้อก็ไม่ได้แจ้งทางการ “ดังนั้นจึงควรระวังในเรื่องของตัวเลข ดูว่าเกิดอะไรขึ้นในโรงพยาบาลแห่งต่ง ๆ และดูด้วยว่ามีผู้เสียชีวิตมากขึ้นหรือไม่”

เขาเตือนด้วยว่าทั้งประชาชนและรัฐบาลจะต้องถือว่าไวรัสโควิดเป็นเรื่องร้ายแรง “เพราะผมไม่คิดว่ามันไม่รุนแรง และใครก็ตามไม่ควรจะดูเบาไวรัสนี้”

อ้างอิง
https://www.khaosod.co.th/covid-19